วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน

อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน

ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
                ในยุคที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ การติดต่อสื่อสารที่นิยมที่สุด คือ การใช้โทรศัพท์ซึ่งทำให้คนที่อยู่ห่างไกลกันสามารถสื่อสารกันด้วยเสียงได้  จนมนุษย์ได้ประดิษฐ์คอมพวิเตอร์ขึ้น และนำคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องมาเชื่อต่อกันโดยผ่านสื่อกลางชนิดใด ชนิดหนึ่ง เพื่อสื่อสารข้อมูลกัน หรือที่เรียกกันว่าเครือข่ายคอมพวิเตอร์ ทำให้การสื่อสารไม่ได้จำกัดแค่การสื่อสารเพียงเลียงอีกต่อไป
                ปัจจุบันบิรการบนอินเทอร์เน็ตมีหลากหลายรูปแบบ  จดหมายอิเล็กทรอนิกส์  การพูดคุยออนไลน์  การซื้อขายสินค้า  อินเทอร์เน็ตมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิต ตั้งแต่การทำงาน  การซื้อสินค้า
                   อินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายของเครือข่าย  การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย ทำให้เกิดเป็นเครือข่าวคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่โยงใยกันทั่วโลก   คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องภายในเครือข่าวสามารถรับและส่งข้อมูลในรูปแบบต่างๆได้ หลายรูปแบบ เช่น ตัวอักษร  ภาพกราฟฟิก  ภาพเคลื่อนไหว  เสียง

                       พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต      เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสาร  ประโยชน์ และแนวโน้มของเทคโนโลยีในอนาคตได้เป็นอย่างดี
         




                      อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ  ปี ค.ศ.1969 หน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูง ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สนับสนุงานวิจัยเทคโนโลยีเครือข่าวอินเตอร์เน็ต ในนามของ เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูง หรือ อาร์พาเน็ต มีการเชื่อมต่อระหว่างสถาบันการศึกษา 4 แห่ง    มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ลอสแองเจลิส  มหาวิทยาลัยยูทาห์   หมาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ซานตาบาร์บารา  และ สถาบันวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด  โดยมีคอมพิวเตอร์หลากหลายชนิดที่เชื่อมต่อกันในเครือข่ายและมีระบบปฆิบัติการที่ต่างกัน แต่สามารถสื่อสารข้อมูลกันได้
                    อาร์พาเน็ตแบ่งออกเป็น 2 เครือข่าย คือ เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยข้นสูง  และ เครือข่าวยของกองทัพ   ปัจจุบันเครือข่ายอินเตอร์เน็ตถือได้ว่าเป็นเครือข่ายสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช้ระบบเครือข่ายได้อย่างกว้างขวาง

                      อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย  ปี  พ.ศ. 2530 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ สถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้เฃื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยและ สถาบันไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น  ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายโทรสัพทื ซึ่งส่งข้อมูลได้ช้าและเป็นการเชื่อต่อแบบชั่วคราว
                        ปี พ.ศ. 2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล้กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ได้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 5 แห่ง  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  สถาบันเทคดนโลยีแห่งเอเซีย  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เกิดเป็นเครือข่าวยที่เรียกว่า  เครือข่ายไทรสาร
                        ปี พ.ศ.2537 การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้ร่วมือกับบริษัทเอกชน เปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่บุคคล ในรูปแบบของบริษัทผู้ให้บริการอินเทอรืเน็ตเชิงพาณิชย์ เรียกว่า ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ทำหน้าที่ให้บริการเชื่อมต่อสายสัญญาณจากแหล่งต่างๆ จากที่บ้าน  สำนักงาน  สถานบริการ
                
                        การทำงานของอินเทอร์เน็ต 




                         เครือข่ายที่อินเทอร์เน็ตสามารถทำให้คอมพิวเตอรืต่างชนิด ที่เชื่อมต่อภายใคเครือข่ายสามารถสื่อสารกันได้ จะต้องมีมาตรฐานการรับส่งขอ้มูลระหว่างกันเป็นแบบเดียวกันหรือ ใช้กฏและข้อตกลงเดียวกัน  ซึ่งก็คือ  โพรโทคอล  ในการควบคุมรูปแบบข้อมูลและการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์  โพรโทคอลที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต เรียกว่า  ทรานมิสชันคอนโทรโพรโทคอล / อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล  หรือ ทีซีพี  ไอพี
                        หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า หมายเลขไอพี  หมายเลขชุดนี้จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน  ส่วนละ 8 บิตเท่าๆกัน เช่น  205.42.117.104 โดยหมายเลขในเครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่ซ้ำกัน  ถ้ามีเครื่องพิวเตอร์จำนวนมาก จะตั้งชื่อเป็นตัวอักษรย่อ แทนหมายเลขไอพี  เรียกว่า  ดีเอ็นเอส  ประกอบด้วย 2 ส่วน  ชื่อ  ละ  โดเมน
                          โดเมนทั่วไป เป็นโดเมนระดับบนสุดที่แสดงถึงองค์กรหรือหน่วยงาน
เช่น     . com    กลุ่มธุรกิจการค้า     aksorn.com
                          โดเมนรหัสประเทศ เป็นโดเมนระดับบนสุดซึ่งแบ่งตามลักษระภูมิศาสตร์  หรือ ประเทศ   เช่น      jp  ญี่ปุ่น
                           การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เป็นที่นิยมใช้สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป จะใช้การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์  เป็นการเชื่อมต่อแบบชั่วคราว   สิ่งจำเป็นในการเชื่อมต่อ   มี เครื่องคอมพิวเตอร์    เว็บเบราว์เซอร์    หมายเขลโทรศัพท์และสายโทรสัพท์   โมเด็ม   บริการชุดอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 
                     
  การใช้บริการบนอินเทอร์เน็ต มีการใช้งานหลากหลายประเภท 
                      -ไปรษณีย์อิเล้กทรอนิกส์ หรือ อีเมล  เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมาก  เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถรับส่งข้อความเพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ได้อย่างรวดเร็ว   รุปแบบของไปรษณียือิเล้กทรอนิกส์แอดเดรสจะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ชื่อผู้ใช้ และ ชื่อเครื่องบริการ โดยใช้เครื่องหมาย @ คั่นระหว่างทั้งสองส่วนนี้  เช่น  waraporn@aksorn.com
รูปแบบการใช้งานไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ มี   เว็บเมล   และ  พ็อปเมล
                         การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล (File Transfer Protocal) เป็นการโอนแฟ้มข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง
การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล มีการทำงาน 2ลักษณะ คือ
-Get  เป็นการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลจากเครื่องปลายทางมาเครื่องต้นทาง (dowlond)
-Put  เป็นการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลจากเครื่องต้นทางมาเครื่องปลายทาง

การบริการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลมี 2ลักษณะ คือ
-การโอนย้ายข้อมูลด้วยโปรแกรมทั้งที่แจกฟรี และ แบบให้ทดลองใช้ก่อน
-โอนย้ายแฟ้มข้อมูลผ่าน Web browser
การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็นเป็นบริการแลกข้อมูลข่าวสารของผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ต  ซึ่งแนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ต คือ ใช้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อสร้างเครือข่าวทางสังคม  เทคโนดลยีการแลกเปลี่ยนข่าวสารมีหลายรูปแบบเช่น   ยูสเน็ต  และ  บล็อก
-ยูสเน็ต เป็นบริการในลักษระกลุ่มสนทนาที่แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ในกลุ่มหัวข้อที่ตนเองสนใจ
-บล็อก  ใช้เขียนบันทึกเรื่องราว โดยเรียงลำดับตามเวลา  เพื่อสื่อสารความรู้สึก มุมมอง และประสบการณ์ ความรู้ ข่าวสาร
การสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต มี2 รูปแบบคือ
-การสนทนาเป็นกลุ่ม  เป็นการสนทนาโดยคู่สนทนาจะพิมพ์ข้อความไปยังเครื่องเวิร์ฟเวอร์ จากนั้นเครื่องเวิรืฟเวอร์จะส่งข้อความแสดงบนหน้าจอของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ร่วมสนทนา
-การสนทนาระหว่างผู้ใช้โดยตรง   เป็นการสนทนาโดยมีเซิร์ฟเวอร์บอกตำแหน่งของโปรแกรมสนทนา ของคู่สนทนา ทำให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับผู้ใช้อื่นๆได้โดยตรง การสนทนาทำได้ทั้งการพิมพ์ข้อความ  การส่งภาพกราฟฟิก  เสียง  และ ภาพเคลื่อนไหว

                บริการการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
ในอดีตถ้าจะหาข้อมูลต้องไปที่ห้องสมุด แต่ในปัจจุบันมีอินเตอร์เน็ตที่เป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่การสืบค้นข้อมูลจึงทำได้สะดวก  แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึง คือการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต  อาจจะต้องใช้เวลานานมาก  กว่าจะพบเว็บเพจที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรือ่งนั้นๆ หรืออาจพบแต่เป็นเนื้อหาที่ไม่ถูกต้อง   เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภทตามลักษณะการทำงาน
             1.เว็บไซต์ที่มีเครื่องมือหรือโปรแกรมการค้นหา  เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ใช้สามารถหาข้อมูลโดการระบุคำสำคัญ  เพื่อค้นหาข้อมูลด้วยโปรแกรมการค้นหาซึ่งข้อมูลบุคคล  กลุ่มข่าว การค้นหาข้อมูลด้วยเว็บไซต์ที่มีการจัดข้อมูลตามหมวดหมู่ทำให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวก เพราะสามารถเลือกค้นข้อมูลจากหมวดหมู่เว็บไวต์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการมากที่สุด แต่กหากเว็บไซต์มีการจัดแบ่งหมวดหมู่โดยไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสนได้ง่าย
             2.เว็บไซต์ที่มีการจัดข้อมูลตามหมวดหมู่  เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต โดยแต่ละเว็บไซต์จะถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ที่เหมาะสม

                    คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตทำให้การติดต่อสื่อสารข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว  ย่อมมีทั้งผลดีและผลเสีย
-ผลดี  คือ ทำให้มีความสะดวกในการติดต่อสื่อสารในเครือข่ายขนาดใหญ่ ทำให้คนในสังคมติดต่อสื่อสารกันได้ทุกสถานที่  ทุกเวลา  ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน  และ ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทำหเกิดการศึกษารูปแบบใหม่ที่กระตุ้นความสนใจของผู้เรียน
-ผลกระทบ  ก่อให้เกิดความเครียดของคนในสังคม การแข่งขันด้านเศรษฐกิจกันอย่างรุนแรง ซึ่งการตัดสินใจในการทำงานต้องใช้ข้อมูลที่มีคุณภาพ เพื่อให้ตัดสินใจได้ถูกต้อง   เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากสังคมหนึ่งไปสู่อีกสังคมหนึ่ง อาจก่อให้เกิดค่านิยมไม่พึงประสงค์ขึ้นในสังคม เช่น การแต่งกายที่ไม่เหมาะสม  เกิดช่องว่างระหว่างคนในสังคม เนื่องจากคนในสังคมใช้เวลาในการเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้น  ในขณะที่คนอยู่ใกล้กันเกิดความห่างไกลกันมากขึ้น    การละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล การแสดงความคิดเห็นไร้ขอบเขต   ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม การล่อลวง  มีการเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร

                    มารยาทระเบียบและข้อบังคับในการใช้อินเทอร์เน็ต



1.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือ ละเมิดผู้อื่น
2.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนการทำงานของผู้อื่น  เล่นเกมส์ หรือ เ ปิดเพลงเสียงดัง
3.ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือ เปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
4.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจมกรรมข้อมูลข่าวสาร
5.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์คัดลอกหรือใช้โปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
7.ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์
8.ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
9.ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน
10.ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฏ ระเบียบ  กติกา และมีมารยาทของหน่วยงาน สถาบัน